เมื่อพูดถึงการจอดรถในบ้าน หลายคนอาศัยเอาความสะดวกของตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถโดย ‘หันหน้าเข้า’ หรือ ‘หันหน้าออก’ ซึ่งการจอดรถแต่ละแบบไม่มีถูกผิด แต่มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ลองไปดูกันว่าการจอดรถแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร
การจอดรถในบ้านเราส่วนใหญ่ จะเป็นการจอดรถโดยหันหน้าออก ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน, ที่จอดรถในห้าง ฯลฯ ซึ่งสาเหตุหลักคงหนีไม่พ้นความสะดวกในการขับออกไปจากช่องจอด และยังลดความเสี่ยงจากการเฉี่ยวชนขณะถอยออกได้ แต่ประเทศในแถบยุโรปส่วนมากมักหันหน้ารถเข้า เพื่อความสะดวกในการเก็บสิ่งของสัมภาระไว้ท้ายรถ เพราะที่จอดรถในยุโรปมักค่อนข้างแคบ คนส่วนใหญ่จึงยอมลำบากในการถอยรถออก เพื่อที่จะสามารถเก็บของท้ายรถได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะรถที่มีลักษณะเป็นแบบแฮทช์แบ็ค ที่ต้องการพื้นที่เปิดประตูท้ายมากกว่ารถซีดาน
เราลองไปดูข้อดี-ข้อเสียของการจอดรถแต่ละแบบกันว่าแตกต่างกันอย่างไร?
จอดรถหันหน้าเข้าบ้าน
ข้อดี – จอดง่าย เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จอดรถกว้าง สามารถหักเลี้ยวเข้าบ้านได้โดยไม่ต้องถอยเพื่อตั้งลำ อีกทั้งยังสามารถขนถ่ายสิ่งของสัมภาระท้ายรถได้อย่างสะดวก ขณะที่การสตาร์ทเครื่องยนต์ตอนเช้าจะทำให้มลพิษจากท่อไอเสียถูกพ่นเข้าบ้านน้อยกว่า ทำให้บ้านไม่เหม็นในตอนเช้า และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในบ้าน
ข้อเสีย – การนำรถออกจากบ้านทำได้ยากกว่า เพราะต้องถอยหลังออก โอกาสเฉี่ยวชนมีสูงกว่า ยิ่งถ้าต้องรีบออกจากบ้านจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเฉี่ยวชนสูงขึ้น รวมถึงหากมีรถข้างบ้านจอดรถยื่นขวางหน้าประตู จะทำให้ถอยรถได้ลำบากขึ้น
จอดรถหันหน้าออกจากบ้าน
ข้อดี – สามารถขับออกจากบ้านได้อย่างสะดวกในเวลาเช้า ลดความเสี่ยงในการเฉี่ยวชนลง หากมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถขับออกไปได้ทันที โดยไม่ต้องมาตั้งลำใหม่ให้วุ่นวาย และเกิดเหตุการณ์แบตเตอรี่หมด ยังสามารถให้นำรถคันอื่นมาพ่วงได้อย่างสะดวกอีกด้วย เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จอดรถแคบ การถอยจอดเข้าบ้านจะทำได้อย่างสะดวกกว่า
ข้อเสีย – การสตาร์ทเครื่องยนต์ในเวลาเช้า น้ำมันจะถูกอัดฉีดเข้าห้องเผาไหม้มากกว่าปกติ ทำให้เกิดมลพิษสูง มีกลิ่นเหม็นเข้าบ้านได้ หากบ้านมีพื้นที่เล็กอาจทำให้การหยิบของด้านท้ายไม่สะดวกนัก
อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าการจอดรถแต่ละแบบไม่มีผิดถูก ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนเป็นหลักจึงจะดีที่สุด