วันที่ 27 พ.ย. 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวิยพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กองสาธารณสุขฉุกเฉิน ได้รายงานการเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรงในภาคใต้ ภาพรวมยังไม่มีสถานบริการของ สธ.ได้รับผลกระทบ โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ได้แก่
จ.ปัตตานี ล่าสุด มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 2 อำเภอ คือ อ.มายอ และ อ.ทุ่งยางแดง มีน้ำเข้าท่วมมัสยิด 3 แห่ง โรงเรียน 6 แห่ง และ สถานศึกษาปอเนาะ 6 แห่ง จ.ยะลา ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องใน อ.เมืองยะลา ทำให้ปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่ราบลุ่ม โดยเฉพาะ ต.สะเตงนอก ถนนหลายเส้นน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน เช่น เส้นทางไปโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สะเตงนอก แต่ยังไม่กระทบต่อการให้บริการ ได้เตรียมความพร้อมรับมือแล้ว
จ.นราธิวาส ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ คือ อ.บาเจาะ อ.แว้ง อ.รือเสาะ อ.เจาะไอร้อง อ.สุคิริน จ.สงขลา ได้รับผลกระทบมาก 4 อำเภอ คือ อ.ระโนด อ.กระแสสินธ์ อ.สทิงพระ และ อ.สิงหนคร มีการเฝ้าระวังติดตามปริมาณฝนที่ตกใน อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ ร่วมกับติดตามระดับน้ำคลองอู่ตะเภาที่อาจจะไหลล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนและน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด
นพ.โอภาส กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรงภาคใต้ ช่วงวันที่ 27-30 พ.ย.นี้ มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
รวมทั้งจะมีคลื่นสูงตลอดแนวชายฝั่งอ่าวไทย 2-3 เมตร มีคำเตือนให้ระวังอันตรายคลื่นลมแรง และควรงดการเดินเรือ
สธ.ได้กำชับให้เฝ้าระวังป้องกันสถานพยาบาลที่มีความเสี่ยง ในเขตสุขภาพที่ 11 และ 12 รวม 113 แห่ง เป็น โรงพยาบาลศูนย์ 3 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป 1 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 12 แห่ง และ รพ.สต. 97 แห่ง รวมถึงเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือดูแลสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางด้วย