ผวจ.เชียงใหม่ รับประสานกรมศิลป์ ซ่อมรูปปั้นยักษ์ 400ปี วัดอุโมงค์ มั่นใจทำงานถูกต้องที่สุดแล้ว เหมือนของเก่าไม่ผิดเพี้ยน อาจารย์ มช.ติงไม่เหมาะไม่ควร
ความคืบหน้ากรณี ผศ.ดร.สุรชัย จงจิตงาม อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่ วิจารณ์การซ่อมแซมประติมากรรมปูนปั้นยักษ์ขนาดใหญ่ ศิลปะล้านนา อายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี ที่วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีการปั้นพอกปูนทับยักษ์โบราณ คล้ายปั้นใหม่ขึ้นทั้งหมด
ซึ่งประติมากรรมยักษ์ดังกล่าว สภาพยังสมบูรณ์อยู่มาก มีศรีษะ และลำตัวครบ แม้แขนจะชำรุดบ้าง แต่ก็เป็นศิลปะที่มีค่า โดยในศิลปะล้านนาภาพยักษ์ในสภาพที่สมบูรณ์อายุหลายร้อยปีที่มีอายุหลายร้อยปีเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก
ประติมากรรมยักษ์ที่วัดอุโมงค์จึงมีความสำคัญในฐานะเป็นต้นแบบในการศึกษาภาพยักษ์ในศิลปะล้านนา ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างเฉพาะตัวไปจากภาพยักษ์ในศิลปะอยุธยา และรัตนโกสินทร์ที่กรุงเทพฯ ที่พบเห็นได้ง่ายในจำนวนมากกว่าฉะนั้น ยักษ์ที่วัดอุโมงค์ จึงมีความสำคัญ และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันหาได้ยากที่ควรรักษาไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีบุคคลจากภายนอกที่ไม่รู้คุณค่าของศิลปะโบราณ ได้นำช่างฝีมือรุ่นใหม่มาทำการปั้นพอกปูนทับยักษ์โบราณในรูปแบบที่ปั้นใหม่ขึ้นทั้งหมด ทำให้ยักษ์วัดอุโมงค์จึงกลายเป็นของใหม่อย่างสิ้นเชิง
ต่อมา พระครูสมุห์บุญเลิศ ชยวโส เจ้าอาวาส และ พระพีระ พระลูกวัดที่รับหน้าที่เฝ้าดูการบูรณะยักษ์ทั้งสองตน ชี้แจงว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อราวๆต้นปี 67 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาเที่ยวชมวัดแห่งนี้ และเกิดศรัทธาและเห็นยักษ์ทั้งสององค์ ชำรุด จึงประสานให้กรมศิลปกร เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมบูรณะ ซึ่งแล้วเสร็จหลายเดือนแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.2567 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เมื่อราวๆต้นเดือนเมษายนปีที่แล้ว ตนมีโอกาสไปไหว้พระที่วัดอุโมงค์ และเดินเที่ยวชมความสวยงามของวัดโบราณสถานภายในวัด แล้วพบเห็นรูปปั้นยักษ์สองตนแขนขาดทรุดโทรม
และพบเห็นนักท่องเที่ยววิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมไม่มีคนดูรักษาซ่อมแซ่ม จึงประสานไปยังกรมศิลปกร ซึ่งเป็นหน้างานโดยตรงมีความรู้และเชี่ยวขาญด้านโบราณสถานโบราณวัตถุ ซึ่งหลังแจ้งไปแล้วตนไม่ได้ติดตามรายละเอียด เพราะเชื่อมั่นในการดำเนินการของกรมศิลป์
จนมาเป็นข่าวซึ่งตนก็มั่นใจว่ากรมศิลป์ทำงานต้องถูกต้องที่สุด แล้วเพราะจากแบบก็ทราบว่าทำออกมาเหมือนของเก่าไม่ผิดเพี้ยนเพียงแต่สภาพมันดูใหม่
ด้าน ผศ.ดร.สุรชัย จงจิตงาม อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนขอไม่ตัดสินว่าใครผิดใครถูก การบูรณะเป็นเรื่องดี แต่ที่เกิดขึ้นตนว่าไม่เหมาะ กรมศิลป์บูรณะเสร็จแล้วก็ไม่ผิด แค่ไม่เหมาะ
เพราะจากมุมมองตนกฎระเบียบการซ่อมบูรณะของโบราณมีหลากหลายรูปแบบ ต้องดูระเบียบการซ่อมเรื่องนี้ แต่ผลที่ออกมาหรือการฟอกปูนทับของเดิม ทำให้ไม่เหลือสภาพของโบราน ตนว่ามันไม่เหมาะไม่ควร