แฟนเพลงจะใช้ชีวิตอย่างไร สงครามสมรส ‘ทนายเดชา’ เผย ‘หนุ่ม กะลา’ อาจบวชไม่สึกถ้าเรื่องไม่จบ

ทนายเดชาเผย หนุ่ม กะลา พร้อมคุย จูน ชี้ถ้าเรื่องไม่จบ 15 มิ.ย.อาจบวชไม่สึก เผยนักร้องดังมีอาการเครียด ไม่ได้ต้องการดําเนินคดีจูนจนถึงขั้นต้องติดคุก

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 10 มิ.ย.67 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือหนุ่ม กะลา ให้สัมภาษณ์กรณี จูน เพ็ญชุลี อดีตภรรยา ออกมาระบุประเด็นคำเบิกความเท็จต่อศาลหรือไม่

ทนายเดชา กล่าวว่า ภรรยาของหนุ่มกะลา ฟ้องมือที่สาม ซึ่งตนเป็นทนายความส่วนตัว และมาตรวจคำเบิกความของทนาย ซึ่งคุณจูนเบิกความให้ข้อมูลว่า สามีมีรายได้ปีละ 30,000,000 บาท ซึ่งขัดแย้งกับงบการเงิน ที่เอามาเปิดเผยในโซเชียลมีเดีย มีแค่ 14,000,000 บาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นต่างกัน 100 % จึงตั้งคำถามว่าเป็นการเบิกความเท็จหรือไม่ เป็นการเข้าใจผิด หรือทนายให้ข้อมูลผิด เพราะตัวเลขค่อนข้างต่างกัน มีผลต่อการเรียกค่าทดแทนในคดีชู้

ทนายเดชา กล่าวว่า ส่วนที่ภรรยาหนุ่มระบุ 30,000,000 นั้นเป็นตัวเลขกลมๆ ซึ่งการเบิกความ ไม่สามารถเบิกความแบบบ้าน้ำลายได้ ต้องมีที่มาที่ไปและตัวเลขชัดเจน อะไรที่ไม่เป็นความจริง ไม่สามารถเบิกความได้

“ที่ผมออกมาพูดนั้น ไม่ได้คิดว่าการที่ออกมาพูดเรื่องนี้จะกระทบกับปัญหาครอบครัว เพราะปัญหาครอบครัวมีมานานแล้ว เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้คุยกัน มีเพียงแค่คุยเรื่องรายละเอียดค่าใช้จ่าย แต่อยากฝากถึงภรรยาหนุ่มว่า อย่าเอาลูกมาออกโซเชียล ถ้าหากว่าเรารักเด็กจริง เพราะมันมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 อยู่ ส่วนความสัมพันธ์ ระหว่างพ่อลูกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน” ทนายเดชา กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะจบหรือสามารถพูดคุยกันได้หรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ แต่อยากขอให้คุณจูนหยุดให้สัมภาษณ์กับสื่อ หรือออกรายการต่างๆ หากอยากพูดคุยหรือไกล่เกลี่ยกัน สามารถเดินทางเข้ามาหาตนเองได้ ยินดีและพร้อม แต่หากยังไม่หยุดก็จะต้องดําเนินการตามกฎหมาย เพราะหนุ่ม กะลา มีอาการเครียดทุกวันจากกระแสสังคมและเขาก็ไม่ได้ต้องการดําเนินคดีคุณจูนจนถึงขั้นต้องติดคุกติดตาราง ซึ่งเงื่อนไขคือทรัพย์สินและหนี้สินแบ่งกันคนละครึ่ง

“ในวันที่ 15 มิ.ย. ทางหนุ่ม กะลา จะเข้าอุปสมบท จนกว่าเรื่องจะจบ หากเรื่องยังไม่จบอาจจะบวชไม่สึก ส่วนบ้านก็ปล่อยยึดไป ไม่มีเงินผ่อนแล้ว”ทนายเดชา กล่าวแบบทีเล่นทีจริง

ทนายเดชา กล่าวว่า ทีมทนายตรวจสอบแล้วว่าเงินที่ถอนออกไปทั้งหมด 66 ล้าน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย ที่อ้างว่ามีต่อเดือน 700,000 บาท เพราะว่าคนละก้อนกัน