จีนเตรียมขาย ‘ตุ๊กตายาง’ ที่สามารถพูดตอบโต้ได้ด้วย AI มีทั้งเวอร์ชัน ชาย-หญิง

จีนเตรียมขาย ‘ตุ๊กตายาง’ ที่สามารถพูดตอบโต้ได้ด้วย AI มีทั้งเวอร์ชัน ชาย-หญิง

จีนเตรียมขาย ‘ตุ๊กตายาง’ ที่สามารถพูดตอบโต้ได้ด้วย AI มีทั้งเวอร์ชัน ชาย-หญิง เพื่อตอบรับความต้องการลูกค้า โซเชียลทวงถามเรื่องศีลธรรม

นับเป็นความท้าทายทางด้านเทคโนโลยีและการกระตุ้นให้เกิดคำถามด้านศีลธรรมของผู้ประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรชาวจีนเตรียมผสานพลังปัญญาประดิษฐ์ (AI) จ่อสร้างตุ๊กตายางที่สามารสื่อสารกับคนได้

รายงานจากสื่อต่างประเทศ บริษัท Starpery Technology จากเมืองเซินเจิ้นในประเทศจีน ผู้ผลิตตุ๊กตายางรายยักษ์ใหญ่ กำลังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย AI ให้กำเนิดตุ๊กตายางที่มีความสามารถแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยมีให้เลือกทั้งแบบชาย-หญิง จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้

อีวาน ลี (Evan Lee) ซีอีโอของบริษัทประกาศว่า “เรากำลังพัฒนาตุ๊กตายางรุ่นต่อไปที่สามารถโต้ตอบทั้งทางเสียงและทางกายภาพกับผู้ใช้ โดยคาดว่าจะสร้างต้นแบบได้ภายในเดือนสิงหาคมปีนี้”

ภาพประกอบ Instagram : starperydollofficial

“นับเป็นความท้าทายทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบรรลุปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ที่สมจริง แม้ว่าบทสนทนาง่าย ๆ จะเป็นเรื่องง่าย แต่การสร้างการตอบสนองแบบโต้ตอบนั้นเกี่ยวข้องกับการพัฒนาโมเดลที่ซับซ้อนโดยบริษัทซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญ”

ตุ๊กตายางแบบดั้งเดิมที่มีโครงกระดูกโลหะและซิลิโคนด้านนอกนั้น จำกัดอยู่เพียงการตอบสนองที่เรียบง่ายและขาดความสามารถในการแสดงออกที่จำเป็นในการมีส่วนร่วมกับมนุษย์

“ตุ๊กตายางรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยโมเดล AI และติดตั้งเซ็นเซอร์ สามารถตอบสนองทั้งการเคลื่อนไหวและคำพูด ช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้อย่างมีนัยสำคัญโดยมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อทางอารมณ์มากกว่าเพียงความสามารถในการสนทนาขั้นพื้นฐาน” ลีกล่าว

ภาพประกอบ : Reuters

นอกเหนือจากปัญหาทางเทคนิคแล้ว บริษัทยังต้องเผชิญกับกระแสวิจารณ์จากสังคมอย่างมากว่า หุ่นยนต์ทางเพศที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้ขอบเขตทางจริยธรรมมีความคลุมเครือและเสริมสร้างทัศนคติที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับการยินยอมและทัศนคติเชิงลบทางเพศหรือไม่ ?

ทั้งยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นที่ว่า การพึ่งพาตุ๊กตายาง AI เพื่อเติมเต็มทางเพศหรือทางอารมณ์มากเกินไป อาจนำไปสู่การเชื่อมโยงกับมนุษย์จริง ๆ ได้น้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนจริง ๆ

ทั้งยังมีกระแสความกังวลด้านกฎหมายและข้อบังคับที่มีอีกด้วย

โดยบทสรุปของเรื่องราวดังกล่าวจะจบลงอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา : bangkokpost

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *