แม้จะยังไม่ได้ลงสนาม แต่กระแสของทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทยได้ถูกปลุกขึ้นมาให้คึกคักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างที่ทราบกันดีว่า ทีมนักตบลูกยางสาวไทยเจอวิกฤตติดโควิด-19 กันเกือบยกทีม ระหว่างเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมลุยศึกเนชั่นส์ ลีก 2021 ที่ประเทศอิตาลี จนต้องมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อนักกีฬากระทันหัน โดยได้เรียกตัวผู้เล่นชุดใหม่เข้ามาชนิดที่หลายคนไม่ทันตั้งตัว
และที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนวอลเลย์แบบสุดๆ ก็คือ การคัมแบ็กของจอมเก๋า “6 เซียน” อันประกอบไปด้วย อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, มลิกา กันทอง, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ และ อำพร หญ้าผา ซึ่งก่อนหน้านี้บางคนกำลังขายของออนไลน์ บางคนพักผ่อนอย่างสบายใจหลังปิดลีก หรืออย่าง อำพร ที่กำลังเลี้ยงลูกอยู่บ้านอย่างแฮปปี้ ก็มีชื่อกลับมารับใช้ทีมชาติอีกครั้ง
หากเปรียบแล้วก็ให้อารมณ์เหมือนฮีโร่จากที่ต่างๆ ถูกเรียกมารวมตัวกันกอบกู้โลกที่กำลังจะโดนดาวหางพุ่งชน เหมือนในหนัง “อาร์มาเก็ดดอน” ยังไงยังงั้น
และไม่เพียงแค่ตัวผู้เล่นที่เปลี่ยนแปลง แต่ยังรวมไปถึงหัวหน้าผู้ฝึกสอน จากเดิมซึ่งเป็นหน้าที่ของ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวชิรเมธากุล สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้มอบหมายให้ “กัปตันแขก” กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์ อดีตกัปตันทีมชาติไทย วัย 35 ปี ซึ่งปัจจุบันสังกัดสโมสรไดมอนด์ ฟู้ด วีซี เข้ามาทำหน้าที่นี้แทน
“ด้วยสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ทั้งผู้ฝึกสอนและตัวนักกีฬา อย่างแรกเลยก็รู้สึกเป็นเกียรตินะครับ รวมทั้งตื่นเต้นและเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับตัวผม บอกเลยว่าแมตช์นี้เป็นแมตช์ที่ใหญ่จริง ๆ ในชีวิต ก็จะพยายามทำผลงานให้เต็มที่ครับ”
“กัปตันแขก” หรือถ้าบทบาทล่าสุดต้องเรียกว่า “โค้ชแขก” เจ้าของส่วนสูง 195 เซนติเมตร เป็นชาวจ.สระแก้ว มีดีกรีมหาบัณฑิต จบปริญญาโท จากม.ธุรกิจบัณฑิต ซึ่งนอกจากการเล่นวอลเลยบอลอาชีพ ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยรับราชการยศพันจ่าอากาศเอก ของกองทัพอากาศ ก่อนที่จะลาออกในเวลาต่อมา และได้บรรจุเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนถึงปัจจุบัน
ส่วนสาวๆ ที่แอบกรี๊ดในความหล่อ ความเท่มาดนายแบบ ความเก่งกาจ ความคมเข้มของโค้ชแขก หรืออะไรก็ตาม อาจต้องผิดหวังนิดนึง เพราะเจ้าตัวแต่งงานมีภรรยาแล้ว เสียใจด้วยน้าาาา…
ส่วนเส้นทางวอลเลย์บอลนั้น โค้ชแขกผ่านศึกลูกยางมาอย่างโชกโชน โดยในระดับสโมสรเคยได้สัมผัสแชมป์รายการใหญ่ๆมาแล้วแทบทุกทัวร์นาเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ถ้วย ก ชิงแชมป์ประเทศไทย, แชมป์กองทัพไทย, แชมป์ไทยแลนด์ลีก และอีกสารพัด
ด้านเกียรติประวัติกับทีมชาติไทย โค้ชแขกเคยพาทีมลูกยางหนุ่มไทยสร้างผลงานสุดยอด กวาดเหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัยซ้อน ตั้งแต่ปี 2011-2017 และเคยได้อันดับ 4 กีฬาเอเชียน เกมส์ 2010 ที่กว่างโจว ประเทศจีน
ขณะที่บทบาทการเป็นผู้ฝึกสอน โค้ชแขกยังไม่เคยรับหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างเต็มตัวมาก่อน โดยอย่างมากก็เป็นผู้ช่วยเท่านั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มือตบมาดเข้มรายนี้จะได้สวมบท “เฮดโค้ช” ครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นกุนซือทีมชาติลุยเวทีใหญ่ระดับโลกเสียด้วย ฉะนั้น จึงอาจให้นิยามของทีมชาติไทยในศึกเนชันส์ลีกครั้งนี้ได้ว่า…
“ถึงนักกีฬาจะหน้าเก่า แต่เฮดโค้ชเราหน้าใหม่นะจ๊ะ”
โค้ชแขก เผยว่า นี่คืองานที่ท้าทายที่สุดในชีวิต และรู้สึกกดดันพอสมควร เพราะทุกอย่างกระทันหันไปหมด แต่ในขณะเดียวกันก็สบายใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะรู้จักและคุ้นเคยกับนักกีฬาชุดนี้หลายคน โดยเฉพาะผู้เล่นซีเนียร์อย่าง ปลื้มจิตร์ ถินขาว หรือ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ซึ่งเคยร่วมงานและสนิทกันมานานแล้ว
ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนภายในทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นกัปตันแขก สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาทุกคน ต่างพร้อมสู้เต็มที่เพื่อธงไตรรงค์ที่ติดอยู่บนหน้าอกข้างซ้าย โดยเฉพาะ “6 เซียน” ที่อาจจะได้เล่นร่วมกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาในทัวร์นาเมนต์นี้เป็นรายการสุดท้าย
แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า นี่คือทีมชุด “เฉพาะกิจ” ที่ถูกเรียกตัวมารวมกันแบบฉุกเฉิน และไม่ได้เตรียมทีมฝึกซ้อมร่วมกันเลย ดังนั้น แฟนๆ อาจต้องเตรียมตัวเตรียมใจในระดับหนึ่งว่า ศักยภาพของทีมสาวไทยนั้นเป็นรองคู่แข่งอยู่พอสมควร ทั้งเรื่องสภาพร่างกาย แท็คติก และการประสานงานของผู้เล่น ซึ่งคงไม่ได้เข้าขากันแบบโบ๊ะบ๊ะๆ เท่าใดนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีความพร้อมมากกว่า
พูดง่ายๆคือ ศึกเนชั่นส์ลีกครั้งนี้มีโอกาสสูงที่แฟนๆจะได้เห็นทีมนักตบสาวไทยเดินออกจากสนามในฐานะผู้แพ้ บ่อยครั้งกว่าการได้มีรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะในฐานะผู้ชนะ
อย่างไรก็ตาม ในวงการกีฬามีคำกล่าวที่ว่า “บอลลูกกลมๆ มีลมอยู่ข้างใน อะไรก็เกิดขึ้นได้”
และเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินวลี ‘สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ’ ซึ่งไม่แน่ว่า “โค้ชแขก” กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์ อาจจะเป็นวีรบุรุษคนนั้นก็ได้
