เมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 ที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา นายอภิชาต เสือเถื่อน อายุ 52 ปี อดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตบริษัท ฟูไน (ไทยแลนด์) จำกัด สาขา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โรงงานผลิตชิ้นส่วนวิทยุ โทรทัศน์และอุปกรณ์ไฟฟ้าส่งออกต่างประเทศ พร้อมพวก
ทั้งเป็นลูกจ้างของบริษัทดังกล่าว เดินทางมาขอความช่วยเหลือ นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา กรณีโรงงานฟูไน ประกาศปิดกิจการถาวรและเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมด 831 คน โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ทำให้เป็นคนตกงานกะทันหัน และมีความกังวลใจการรับเงินชดเชย
นายพรเทพ เปิดเผยว่า แนวทางการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายเบื้องต้น ได้ระดมทนายความอาสาจัดแบ่งหน้าที่รวบรวมพยานเอกสาร กลุ่มที่เป็นหัวหน้าแต่ละแผนก ยื่นฟ้องต่อศาลแรงงานภาค 3 นครราชสีมา เพื่อเรียกเงินค่าชดเชย ค่าเสียหายการเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม และยื่นคำร้องขอให้ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉิน
และมีคำสั่งขอคุ้มครองชั่วคราว ห้ามจำหน่ายจ่ายโอนเคลื่อนย้ายทรัพย์สินใดๆ หากรวบรวมผู้เสียหายกว่า 800 คน ยื่นฟ้องต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน จึงต้องยื่นฟ้องเฉพาะบางรายก่อน เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าวและการรอคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน สุดท้ายอาจได้แต่กระดาษและรอยยิ้มเท่านั้น
นายอภิชาต กล่าวว่า จำนวนลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบมิใช่มีแค่ 831 คนเท่านั้น หลายครอบครัวทั้งสามีภรรยาและยังมีญาติพี่น้องทำงานในโรงงานเดียวกัน ตัวเลขผู้ได้รับความเดือนร้อนจึงมีนับพันคน ส่วนใหญ่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการหาเงินเลี้ยงชีพและดูแลครอบครัว ขอขอบคุณสภาทนายความที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือลูกจ้างโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ฝากถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องช่วยเป็นเจ้าภาพเร่งรัดติดตามเงินค่าชดเชยด้วย
ด้านนายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ ส.ส เขต 14 จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะส.ส เจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า หลังทราบปัญหาความเดือดร้อนได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงทันที โดยพบปะพูดคุยกับแกนนำลูกจ้างพร้อมรับข้อมูลนำประสานกับทางพรรคเพื่อไทยและคณะกรรมาธิการแรงงานสภาผู้แทนราษฎรรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาเร่งด่วน