เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ว่าที่ รต.ปริญญา ศักดิ์นาวี นักกิจกรรมในพื้นที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบคนเร่ร่อน ปลูกเพิงตากแดดตากฝนพักอาศัยอยู่ริมถนน บริเวณปากซอยบางศรีเมือง 16 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเพิงพักดังกล่าว สร้างด้วยป้ายโฆษณาต่าง ๆ ที่นำมาปะติดปะต่อกันเป็นห้องพัก อาศัยอยู่ในพื้นที่โล่งดังกล่าว โดยมีกองเศษวัสดุต่าง ๆ กองสุมกันอยู่ จากการสอบถามเจ้าของเพิงพักดังกล่าว ทราบชื่อคือ น.ส.อรชร (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี อดีตนักแสดงละครค่ายดัง
ซึ่งเคยแสดงเป็นเพื่อนนางเอก เรื่องอสุรกาย ปี 2528 คู่กับพระเอกอย่าง นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช แอน นิออน อิศรา และยังแสดงละครเรื่องล่องเรือหารักคู่กับปิ๊ง ชมพู ฟรุ๊ตตี้ ด้วย
นอกจากนี้ น.ส.อรชร ยังเคยได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เวทีประกวดนางนพมาศประจำปี 2527 อีกด้วย น.ส.อรชร เปิดเผยถึงชีวิตที่พลิกผันให้ฟังว่า เคยมีสามีแล้ว 3 คน สองคนแรกได้เลิกรากันไป ก่อนที่จะมาพบกับสามีคนที่ 3 ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถบรรทุกส่งของอยู่ที่ย่านปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ ตนจึงได้ย้ายไปอยู่กับสามีที่นั้น ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 12 ปี จนกระทั่งเมื่อปลายปี 66 สามีได้ล้มป่วยและเสียชีวิตลง ชีวิตก็เหมือนขาดเสาหลักทางครอบครัวสามีก็ไม่ต้อนรับ ตนจึงต้องย้ายกลับมาอยู่ที่บางศรีเมือง ที่ตนเกิดและเติบโตมาที่นี้
พอไปสร้างเพิงพักอาศัย และตระเวนเก็บของเก่าไปขายเพื่อหาเงินประทังชีวิต ก็ถูกเพื่อนบ้านเจ้าของที่ฟ้องเทศบาลขับไล่ที่มา จนกระทั่งมาเจอเจ้าของที่บริเวณนี้สงสารตน เพราะเห็นตนต้องตระเวนไปตากยุงริมถนน เลยอนุญาตให้ตนปลูกเพิงพักอาศัยในที่ดินบริเวณนี้ได้ ตนจึงตระเวนเก็บป้ายโฆษณา เศษไม้ วัสดุต่าง ๆ มาสร้างเป็นเพิงพักชั่วคราว อยู่แบบไม่มีน้ำไม่ไฟฟ้าใช้ หรือแม้แต่ห้องน้ำมาได้หนึ่งปีแล้ว
ซึ่งหน้าร้อนก็ไม่เท่าไร เพราะตนออกไปตระเวนหาเก็บของเก่ามาขายจึงไม่ค่อยได้อยู่ในช่วงกลางวัน แต่ถ้าเป็นหน้าฝนหรือมีฝนตกลงมา ก็จะเปียกปอนไปหมดเพราะอุปกรณ์ที่ใช้มาทำเป็นหลังคา กันแดดเป็นเพียงป้ายโฆษณาเท่านั้น ไม่สามารถกันน้ำฝนได้
น.ส.อรชร กล่าวอีกว่า ชีวิตที่ผ่านมาของตนนั้น ถือว่าพลิกผันมาก เพราะหลังจากได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 นางนพมาศประจำปี 27 ซึ่งจัดประกวดที่บริเวณท่านน้ำนนท์แล้ว มีผู้จัดการละครเข้ามาติดต่อให้ตนไปแสดงหนังกับค่าย ที่หลังเวทีการประกวดทันที ทำให้ตนมีรายได้หลายหมื่นต่อการแสดงละคร 1 เรื่อง ในตอนนั้น
แต่ต่อมาได้ย้ายไปอยู่กินกับสามีคนแรก ที่จังหวัดราชบุรีก่อนจะเลิกรากันไป จากนั้นชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไป จนกระทั่งต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อนไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องตระเวนเก็บของเก่ามาขาย ซึ่งก็ต้องรอรวบรวมให้ได้เยอะๆ เสียก่อน 3 วัน ขายทีนึงก็จะได้เงินมาประมาณ 150 – 200 บาท เพียงแค่นั้น
ซึ่งชีวิตนอกจากจะลำบากแล้ว ยังถูกขโมยเข้ามาซ้ำเติม ด้วยการลักรถจักรยานที่มีคนบริจาคให้ตนมาใช้ตระเวนหาเก็บของเก่าขาย หายไปอีก 2 คัน จนกระทั่งต่อมาอดีตสามีคนที่ 2 ให้รถซาเล้งตนมาใช้ เพราะเขาลุกเดินไม่คล่อง ตนยังถูกคนร้ายย่องมาขโมยถอดแบตเตอรี่รถซาเล้งไปอีก
จนปัจจุบันนี้ตนต้องอาศัยเข็นรถซาเล้งเพื่อออกเดินเก็บของเก่าแทน เพราะไม่มีรถที่จะใช้ทำมาหากินแล้ว แม้จะต้องเข็นหนักกว่ารถทั่วไป ตนยอมเข็นเพราะดีกว่าไม่มีรถไปเก็บของ น.ส.อรชร กล่าวว่า ชีวิตตนในตอนนี้ ตนเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่องคือเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะไม่รู้ต่อไปเลยว่า ในวันข้างหน้าหากเจ้าของที่ขายที่ดินแปลงนี้ไปแล้ว ตนก็ไม่รู้ว่าจะต้องย้ายไปอยู่ที่ไหนอีก
ก็อยากจะมีห้องพัก หรือบ้านเช่าราคาถูกให้ตนอยู่อาศัยได้ จะได้ไม่ต้องทนร้อนทนเปียกฝนอีกต่อไป ส่วนที่เป็นห่วงอีกเรื่องคือ เรื่องที่ลูกสาวคนเล็กของตนที่เพิ่งเรียนจบชั้น ม.6 มา แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เพราะตนไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนต่อ ที่ผ่านมาลูกสาวคนเล็กก็สอบชิงทุนเรียนในระดับชั้น ม.ต้น ชั้น ม.ปลายมาด้วยตัวเอง ตนก็อดเป็นห่วงอนาคตลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งอายุ 20 ปี ไม่ได้เหมือนกัน อยากให้เขาได้เรียนสูง ๆ เพื่อที่จบออกมาจะได้ทำงานดี ๆ ไม่ลำบากเหมือนตน