ตำรวจจัดกำลังล่า ‘บุญเกิด’ มือยิงตำรวจดับ แจงปมไฟเขียวจับตาย เชื่อยังกบดานอยู่ในไทย เตรียมปูนบำเหน็จ ‘ร.ต.ต.ไพไรจน์’ ให้สมเกียรติ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว
วันที่ 12 เม.ย.68 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยความคืบหน้าในการไล่ล่าจับกุม นายบุญเกิด สิงห์เดชะ อายุ 33 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจ ขณะนำกำลังจะเข้าตรวจค้นกระท่อมในสวนยางพารา กระสุนปืนถูก ร.ต.ต.ไพไรจน์ พรหมอินทร์ รอง สวป.สภ.เมืองเลย เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านก่อไผ่โทน หมู่ 9 ต.กกดู่ อ.เมือง จ.เลย เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.พิษณุ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.4 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรภาค 4 ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุทันที โดยขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ก่อเหตุที่อยู่ระหว่างหลบหนี ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า หากท่านใดพบเบาะแสคนร้ายสามารถแจ้ง 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกเก็บเป็นความลับ
อย่างไรก็ตามกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการไฟเขียวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตายผู้ต้องหานั้น ขอเรียนว่า ตำรวจได้ยึดหลักการปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาตามกฎหมาย แต่หากมีการต่อสู้หรือขัดขืนการจับกุม เจ้าหน้าที่ก็จะต้องใช้วิธีในการป้องกันตนเอง และหากผู้ต้องหามีการขอมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
โดยตำรวจไม่ได้มีธงว่าจะจับเป็นหรือตายผู้ต้องหารายนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจและชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นในการจับกุมจึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ปราบปราม ในการใช้กำลังเข้าไปกดดัน แต่หากผู้ต้องหาต่อสู้ เจ้าหน้าที่ก็จะใช้หลักการป้องกันตัวตามสมควรแก่เหตุ
พล.ต.ต.พิษณุ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าผู้ต้องหาได้ประสานขอเข้ามอบตัว มีเพียงทางครอบครัวและญาติของผู้ต้องหาที่วิงวอนให้ผู้ต้องหาเข้ามามอบตัว และจากการข่าวทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ ยังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ที่มีการระดมกำลัง 200-300 นาย ยังคงปูพรมไล่ล่า ปิดล้อมพื้นที่ที่คาดว่า คนร้ายจะหลบหนีไปซ่อนตัว
ส่วนการดูแลช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไปนั้น ในเบื้องต้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จะมีการปูนบำเหน็จ 7 ขั้น 7 ชั้นยศ พร้อมกับได้มอบหมายเงินส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือในขั้นต้น จำนวน 100,000 บาท ให้กับครอบครัว และจะขอพระราชทานเพลิงศพให้สมเกียรติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้วายชนม์ต่อไป