ตำรวจไซเบอร์บุกค้น เครือข่ายลักลอบขายข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 1 ล้านรายชื่อ ผ่านเฟซบุ๊ก พบมีครบทั้งเลขบัญชีธนาคาร-เบอร์โทร
วันที่ 14 มิ.ย. 67 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บช.สอท.2 ) เมืองทองธานี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “Cyber Sweep” ตรวจค้นเครือข่ายลักลอบการขายข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 1 ล้านรายชื่อผ่านทางเฟซบุ๊ก
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.สอท.4 ตรวจสอบพบเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ณฏฐ์ชญา นัท” โพสต์ข้อความซื้อขายข้อมูลส่วนตัวในกลุ่ม “ซื้อขายฐานข้อมูลลูกค้าทุกอย่าง” ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเปิดสาธารณะ โดยสามารถเข้าไปทักแชทไปคุยส่วนตัวกับผู้ที่โพสต์ได้โดยตรง เพื่อติดต่อซื้อขายข้อมูล มีทั้งสายดำและสายขาว จำนวน 200,000 รายชื่อ ในราคา 3,000 บาท
โดยผู้โพสต์จะให้แอดไลน์เพิ่มเพื่อนในไอดีไลน์ “@702qzplk” จากนั้นจะปรากฏไลน์ชื่อ “ดาต้าฐานข้อมูลลูกค้า” หลังจากพูดคุยตกลงรายละเอียดกันเสร็จแล้ว ก็จะให้โอนเงินเพื่อซื้อขายข้อมูลตามที่เราต้องการไปยังบัญชีที่ส่งมาให้ทางไลน์ เมื่อโอนเงินเสร็จสิ้นก็จะได้รับข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นจริง พร้อมทั้งยังได้รับโปรแกรมยิง SMS ฟรี ซึ่งข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับมีหลายประเภท อาทิ ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขโทรศัพท์และไอดีไลน์
ต่อมา พ.ต.อ.สุขสันต์ เปาอินทร์ ผกก.3 บก.สอท.4 สืบสวนจนทราบว่าที่ห้องเช่าภาย ในพื้นที่ ม.2 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่ตั้งที่มีการลักลอบขายข้อมูลส่วนบุคคลรายนี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายค้นเป้าหมายบ้านดังกล่าว เพื่อตรวจค้นหาหลักฐานในการกระทำผิด
ขณะเข้าตรวจค้นพบ น.ส.จุฑามาศ อายุ 30 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของห้องพัก ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดโน้ตบุ๊ก 1 เครื่องและโทรศัพท์ 2 เครื่อง เพื่อตรวจสอบข้อมูล โดยพบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลทั้งชายและหญิงที่จัดเก็บไว้ในเครื่องกว่า 1 ล้านรายชื่อ
พล.ต.ต.จิตติพนธ์ กล่าวว่า จากการสอบสอบปากคำ น.ส.จุฑามาศ ให้การว่า เมื่อประมาณ 5 ปี เคยทำงานเป็นกราฟฟิกให้กับเว็บพนันออนไลน์ ทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับค่าตอบแทนประมาณ15,000 – 18,000 บาท ต่อเดือน โดยทำหน้าที่ตัดต่อรูปภาพที่ใช้สำหรับทำการโปรโมตเว็บพนันออนไลน์
ส่วนข้อมูลบุคคลที่ตนได้มานั้นเป็นฐานข้อมูลของลูกค้าที่เคยสมัครเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งทางเจ้าของเว็บพนันเป็นคนจัดหาข้อมูลมาให้ โดยในคอมพิวเตอร์ของตนมีข้อมูลทั้งหมดกว่า 10 ไฟล์ รวมกันกว่า 1 ล้านรายชื่อ
ก่อนหน้านี้ได้ทำการขายข้อมูลให้ผู้อื่นไปแล้วกว่า 10 ครั้ง เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสามารถนำมาทำให้เกิดรายได้ โดยส่วนใหญ่ผู้ทำเว็บพนันออนไลน์ต่าง ๆ จึงมักมีการลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาเสนอขายให้แก่บุคคลทั่วไป
ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางเพื่อนำส่งตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิด ซึ่งการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น ถือเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการฝ่าฝืนมาตรการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นแล้วนำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น”
อีกทั้งโพสต์ดังกล่าวเป็นการทำให้เข้าใจว่าสามารถนำข้อมูลส่วนบุคคลมามาซื้อขายได้หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ให้ความยินยอมแล้ว ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการนำเข้าข้อมูลที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อีกด้วย