วันที่ 23 พ.ค.67 นักแสดงสาว จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย เล่าประสบการณ์ไปทำบัตรประชาชนครั้งล่าสุด เจอเจ้าหน้าที่ขอหลักฐานยืนยันตัวตน เหตุเพราะหน้าไม่เหมือนเดิม แถมทักน้องทำอะไรมาบ้าง
ล่าสุดมาริโอ้ ซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้?
“มันใช้ดี ถ่ายรูปดี ถ่ายชัด มีความสุขค่ะ เหมือนมีเขาอยู่ใกล้ๆ ที่เขาซื้อให้เพราะเป็นไฟลต์บังคับ เพราะว่าเราโดนขโมยเครดิตการ์ดทุกอย่าง จันจิ ไม่สามารถจะซื้อได้จริงๆ ไม่มีเงินสดด้วย เลยบอกว่ารบกวนแอดวานก่อนได้ไหม เดี๋ยวเราก็ค่อยว่ากัน(หัวเราะ)”
มาริโอ้บอกให้เราผ่อน?
“ไม่ทวงนะ เขาคงสงสาร เราเสียหายไปหลายแสน เขาเลยปลอบขวัญ สรุปกลับบ้านไปเรียกเก็บตังค์”
เขาเยียวยาเราด้วยการซื้อโทรศัพท์ให้?
“จันจิว่าเขาพาไปทำธุรกรรมทุกอย่าง บัตรประชาชน บัตรทุกอย่าง แล้วไปช่วยยืนยันหน้าจันจิด้วยนะ เพราะเขาบอกว่าหน้ามันไม่เหมือนเดิม ต้องมีพยาน ที่เขตเขาบอกว่าหน้าไม่เหมือนเดิม ไม่แมตกับอันเก่า รบกวนขอหลักฐานด้วย”
สะเทือนใจไหมตอนเจ้าหน้าที่พูด?
“ไม่นะคะ เพราะว่าเราก็ทำจริงๆ พี่โอ้ไปเซ็นรับรอง และเขาบอกว่าหน้าเหมือนเดิมจะตาย เพราะว่าเอาพาสปอร์ตไปผิดเล่ม“
ตอนที่เห็นรูปตัวเองในระบบรู้สึกอย่างไร?
”มีพัฒนาการที่ดีนะคะ โดนถามว่าน้องทำอะไรมาบ้าง น้องหน้าเปลี่ยนนะเนี่ย ก็บอกว่าทำตา และจมูกนิดหน่อยค่ะ“
ตอนที่เราโดนเจ้าหน้าที่ทักขนาดนั้นมันเสียความรู้สึกไหม?
“นิดนึง แต่มันคือขบวนงานในการสอบถาม พี่ว่าไม่เหมือนเดิม เขากลัวไม่แมตกัน มันเป็นไปตามระบบของเขา เพราะว่าจันจิเอาพาสปอร์ตเล่มเก่าไป เขาก็เลยไม่สามารถยืนยันตัวตนจันจิได้ค่ะ”
ตอนที่มาริโอ้ บอกว่าหน้าเราเหมือนเดิม เราว่าไง?
“เหรอๆ เบาๆ หน่อย ไม่เหมือนเลย(หัวเราะ)”
เรากลับมาต้องเดินเรื่องอย่างไรบ้าง?
“เริ่มด้วยการไปทำบัตรประชาชน ไปซื้อมือถือก่อน ไปแบงก์ไปทำการ์ดต่างๆ เขาพาไปทำทุกอย่างเลย ทำเสร็จก็บอกพี่โอ้พาจันจิกลับบ้าน แล้วเขาก็ไปทำธุระต่อ ต้องกราบขอบคุณพี่เขาจริงๆ แล้วโชคดีวันนั้นพี่เขาว่างเลยทำธุระให้”
มาริโอ้ ซื้อของพวกนี้ให้บ่อยไหม?
“ไม่ค่ะ มันเป็นของที่จำเป็นจริงๆ ตัวเขาเองก็ไม่ได้ซื้อบ่อย พี่เขาก็ซื้อของให้หลากหลาย โทรศัพท์เครื่องนี้ทำตกบ่อย”
อย่างในโทรศัพท์มันมีข้อมูลและรูปเยอะไหม?
“โชคดีว่าจันจิเซฟข้อมูลทุกอย่างไว้ วันแรกที่จันจิถ่ายงานของลูกค้าหายหมดเลยเพราะว่าเรายังไม่ได้เซฟข้อมูลไว้ นอกนั้นอยู่หมด เราเลยรู้สึกว่าไม่เป็นไร ยกเว้นเงินที่เขากดไป สรุปแล้วคือยังไม่ได้เคลียร์ กดไปแล้วไปเลย”
รูปหวานๆของเรากับมาริโอ้ยังอยู่?
“ยังอยู่ค่ะ พูดตรงๆ ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กันนานมากแล้ว แล้วมือถืออัปเดตล่าสุดไปอยู่เซินเจิ้นเรียบร้อยแล้ว จากอเมริกาไปถึงจีนแล้ว เขาท่องเที่ยวรอบโลกยิ่งกว่าจันจิอีกนะ เราเลยต้องรีบลบข้อมูลของเราเพราะว่าไปจีนแล้วเรากลัวว่าพี่จีนจะแฮ็กข้อมูลของเรา
เรากลัวเรื่องการเงินของเราส่วนเรื่องลูกไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลยจริงๆ กลัวเรื่องข้อมูลการเงินและข้อมูลส่วนตัวมันหายแค่นั้นเลย“
เราได้เดินเรื่องกับทาง ตม. ไปถึงไหนแล้ว?
”เรายังไม่ได้เดินเรื่องให้เรียบร้อยเลยค่ะเพราะช่วงนี้จันจิยุ่งมากจริงๆ เดี๋ยวจะไปตามให้เรียบร้อยแล้วจะมาอัปเดตกันค่ะ“
มูลค่าความเสียหายครั้งนี้เท่าไหร่?
”เงินที่เขารูดไป 80,000 กว่ารวมทั้งมือถือด้วยก็เป็น 100,000 ค่ะไม่เป็นไรเราโอเค(หน้าเศร้า) คือต่อไปถ้าเราจะช่วยใครเราต้องจับมือถือหรือของมีค่าของเราไว้ให้ดี เขาอาจจะก็ได้ แล้วมีคนที่คิดไม่ดีเข้ามาตอนนั้นก็ได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เป็นเหตุการณ์จริงหรือเขาสร้างขึ้นมา เพราะฉะนั้น ถ้าจะช่วยก็ช่วยค่ะ แล้วถ้าเกิดตอนนั้นเราไม่ช่วยแล้วเขาล้มหัวฟาดพื้นขึ้นมา เราคงรู้สึกไม่ดี ดังนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ต้องช่วยก็ช่วย”