ไม่จบง่ายๆ ลิลลี่ เหงียน รวมตัวผู้เสียหาย จี้ตำรวจตามตัว เอิร์ก เลเดอเรอร์

อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนแรง ล่าสุุดวันที่ 2ส.ค.67 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ พา ลิลลี่ เหงียน นักแสดงนางแบบ พร้อมด้วยกลุ่มนางแบบ FHM นางเอก MV ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากการถูก เอิร์ก เลเดอเรอร์ หลอกลงทุนธุรกิจเสริมความงามและสินค้าแบรนด์เนนม เสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท

ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีในไทย พร้อมนำคลิปเสียงของเอิร์ก เลเดอเรอร์ในเรื่องของการหนีออกนอกประเทศมามอบเป็นหลักฐานและเผยแพร่สื่อมวลชนด้วย ด้าน น.ส.ปอร์เซ่ (นามสมมติ) ตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกหลอกร่วมลงทุน เปิดเผยว่า ตนเองทำธุรกิจและอยากต่อยอด โดยถูกเอิร์ก เลเดอเรอร์ เอาคลินิกมาบังหน้า เพื่อให้ไปร่วมลงทุน รวมมูลค่าความเสียหาย 100 กว่าล้านบาท

ขณะที่ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มนางแบบ เล่าว่า รู้จัก เอิร์ก เลเดอเรอร์ จากการถ่าย MV จากนั้นก็ถูกชักชวนให้ไปถ่ายรีวิวคลินิกเสริมความงาม และยังมีให้ลงทุนสินค้าแบรนด์เนมและรถยนต์หรูต่างๆ โดยส่วนตัวเสียหาย 3.5 ล้าน ถ้ารวมกับกลุ่มเพื่อนเป็น 10 ล้านบาท

ขณะที่ ลิลลี่ เหงียน ยังตั้งข้อสงสัยเรื่องผู้หญิงอีกคนที่ไม่รู้ว่าเป็นแฟนหรือเพื่อนของ เอิร์ก เลเดอเรอร์ อักษรย่อ อ.อ่าง ว่าเป็นคนนำเงินหรือทรัพย์สินไปให้เอิร์กหรือไม่ อยากให้มีการสืบสวนและนำตัวหญิงคนดังกล่าวมาสอบสวนด้วย ด้าน อี้ แทนคุณ กล่าวว่าผู้เสียหายที่ถูก เอิร์ก เลเดอเรอร์ หลอกลงทุนมีมากกว่า 50 คน ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจและผู้ประกอบกอบกิจการธนาคาร และเป็นเซเลปก็มี บางรายเครียดมากเพราะเป็นเงินเก็บทั้งชีวิต

พอมีการไปทวงถามเรื่องเงินก็จะบอกว่านำไปลงทุนอยู่ ถ้าถอนตอนนี้ก็จะเสียผลประโยชน์ไปไม่คุ้ม หรือบางเคสมีการทำสัญญาก็ให้ไปฟ้องร้อง หลายคนครียดซึมเศร้า ขณะที่ส่วนตัว เอิร์ก เลเดอเรอร์ กลับใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบาย ใช้แบรนด์เนมทั้งตัว นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบเสาะไปถึงการเสียชีวิตของ น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ อายุ 30 ปี หรือ เก๋ เลเดอเรอร์ นางแบบสายเซ็กซี่

ซึ่งหากมีหลักฐานว่ามีการหลอกลวงจนทำให้เครียดจนคิดสั้นเสียชีวิตก็อาจจะต้องมีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ด้าน พ.ต.อ.เขมรินทร์ หัสศิริ อดีต ผบก.ตท.ในฐานะที่ปรึกษา ผบ.ตร.ด้านต่างประเทศ เปิดเผยหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนคดีแล้วก็จะร้องขอศาลออกหมายจับ ซึ่งกรณีนี้ได้ทำเรื่องขอหมายแดงจากตำรวจสากล 195 ประเทศ

เพื่อให้ติดตามจับกุมคนร้าย ขณะนี้ยังต้องรอการอนุมัติ ยอมรับว่าคนร้ายเมื่อหลบหนีออกไปอยู่ประเทศที่สามก็จะเดินทางได้ปกติจนกว่าประกาศหมายแดงจะออก และกรณีที่คนร้ายถือสัญชาติประเทศที่สามก็อาจจะทำให้ตามตัวยากขึ้น แต่ยืนยันว่าตำรวจยังคงเร่งติดตามตัวอยู่.