ฟังแล้วน้ำตารื้นทั้งเวที แห่แชร์คำพูด ‘เบลล่า ราณี’ วินาทีขึ้นรับรางวัล สปีชกินใจยิ่งกว่าไลฟ์โค้ช

ฟังแล้วน้ำตารื้นทั้งเวที แห่แชร์คำพูด ‘เบลล่า ราณี’ วินาทีขึ้นรับรางวัล สปีชกินใจยิ่งกว่าไลฟ์โค้ช

คว้ารางวัลเกียรติยศ สาขาละคร นักแสดง ทรงคุณค่าตลอดกาล จากเวทีประกาศรางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 20 ที่จัดขึ้นที่ ที่ TRUE ICON HALL ชั้น 7 ICONSIAM ซึ่งรางวัลนี้ตกเป็นของนางเอกสาว “เบลล่า ราณี แคมเปน” หลังจากขึ้นไปรับถ้วยรางวัลเกียรติยศบนเวทีแล้ว เจ้าตัวก็ได้พูดสปีช หรือการกล่าวสุนทรพจน์ กับทุกๆ คนในงาน ไว้ว่า….

“รางวัลนี้เป็นเกียรติในชีวิตของนักแสดงคนนึงมากจริงๆ เบลขอเล่าถึงชีวิตของเบลให้ทุกคนฟังนะคะ ชีวิตในวงการของเบลไม่ได้มาแบบสวยหรู หรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ ถ้าเปรียบเป็นม้าแข่ง เบลไม่ใช่ตัวเต็ง เบลต้องลุ้นทุกสนามว่าเบลจะได้ลงแข่งหรือเปล่า สนามนี้เราจะได้แสดงฝีมือให้คนเห็นไหม มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เริ่มต้น เบลไม่ใช่เบลที่ทุกคนเห็นว่ามีชื่อเสียง หรือเป็นที่รักอย่างที่ทุกคนเห็นกันอย่างทุกวันนี้

ตอนแรกที่เบลเข้าช่อง 3 มา เบลเป็นเด็กถึก เบลต้องนั่งรถตู้จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อมาที่ช่อง 3 คือพระราม 4 เป็นเวลาหลายวันต่อสัปดาห์เพื่อที่จะเรียนรู้ และรอโอกาส จนได้ละครเรื่องแรก เบลไม่ได้เป็นนางเอก แต่เบลเป็นนางร้ายในเรื่องรอยมาร ในปี 54

หล้งจากน้้นก็ขยับมาเป็นนางรองละครเย็น เรื่องตะวันยอดรัก จนเบลได้มาเป็นนางเอกละครหลังข่าวเรื่องแรก ก็คือ พรพรหมอลเวง ต่อด้วยสุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายพุฒิภัทร เรื่องนี้เบลแคสอยู่เป็นปีกว่าจะได้บทกรองแก้ว

จากนั้นก็มีผู้จัดหลายๆ คนให้โอกาสเบลเรื่อยมา ลูกทาส เพลิงฉิมพลี ภพรัก ปดิวรัดา วิมารเมขลา และ เพลิงบุญ ที่เป็นละครดรามาเข้มข้น ซึ่งในปีนั้นเรื่องนี้ได้เรตติ้งอันดับ 1 ของช่อง 3 เรื่องนี้เบลถ่ายพร้อมกับบุพเพสันนิวาส ซึ่งได้มาออนปี 61 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเบลเลย ที่เบลได้มาเป็นออเจ้าของทุกคนในวันนี้

จากนั้นก็มี ปี่แก้วนางหงส์ กรงกรรม ร้อยเล่ห์มารยา พรหมลิขิต และกำลังจะเปิดกล้อง เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง หรือแม้แต่งานภาพยนตร์ เบลก็ไม่ได้เริ่มต้นที่บทนำเลย พอได้เป็นบทนำ เรื่องนั้นก็ไม่ได้ฉาย จนมาเป็นอีเรียมซิ่ง บุพเพสันนิวาส 2 ที่ทุกคนเห็นว่าประสบความสำเร็จ

ที่เบลเท้าความมาทั้งหมด อาชีพของเบล ไม่ได้แตกต่างจากทุกคนเลย มันไม่ได้มีแต่ความสวยงาม มันมีทั้งความผิดหวัง ความพยายาม การฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีคำดูถูก มีคำวิจารณ์ มีการอดทนรอ ซึ่งตั้งแต่ที่เบลได้เป็นเด็กฝึกช่อง 3 จนมาถึงวันที่บุพเพสันนิวาสออนแอร์ เบลใช้เวลา 8 ปี จากตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเป็นอาชีพนักแสดง เบล ใช้เวลากว่าจะมีวันนี้ เป็น เบลล่า ราณีคนนี้ เบลใช้เวลาทั้งหมด 14 ปี เบลไม่ต่างจากทุกๆ คนเลย

คนเราไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ก้าวแรก แต่บางทีมันอาจจะสำเร็จบนความพยายามครั้งที่ 100 ด้วยซ้ำ บางครั้งความพยายามอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องมีโชคด้วย แต่เบลเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจ ถ้าเรามุ่งมั่น และเราพร้อมอยู่เสมอ จุดเปลี่ยนในชีวิตเราที่เข้ามา เราจะพร้อมคว้ามันทันที อย่าให้คนอื่นมาบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าเอาคำดูถูก หรือการกลั่นแกล้งมาบั่นทอนจิตใจของเรา แต่ว่าคุณจงใช้พลังนั้นในการขับเคลื่อนตัวคุณ

แล้วถ้าวันไหนที่เราได้ลงสนามจงวิ่งให้สุดกำลังเลยค่ะ ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร เราแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ในสิ่งที่ไม่มีคนมองเห็น ความตั้งใจนั้นมันจะส่องแสงออกมา แล้วมันก็จะเป็นวันของคุณค่ะ เบลขอขอบคุณผู้ใหญ่ ผู้จัดทุกท่าน ขอบคุณที่ให้ม้าตัวนี้ได้ลงสนามแข่ง ได้โชว์ฝีมือความสามารถให้ทุกคนได้เห็น ทุกสิ่งทุกอย่างมันหล่อหลอมให้ เบล เป็น เบลล่า ราณี ในทุกวันนี้”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *